ไพเบี้ย ผู้สามหาว |
ไพเบี้ย..ฉายาผู้สามหาว ประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจน แต่มาเป็นที่รู้จักไปทั่ว ก็ตอนที่รับตำแหน่งหัวหน้าลี่ปู้ของกรมธรรมการ(ทำหน้าที่บวงสรวงพิธีกรรม และกำกับดูแลหลวงจีน นักพรต..คล้ายๆกรรมาธิการทางด้านศาสนา)
บ้างก็ว่าอดีตเคย "โกงเงินหลวง" สามร้อยหมื่นตำลึงให้ "แม่บ้าน"ของตัวเอง โดยใช้วิธี "กู้ยืม" จากกรมท้องพระคลัง "แล้วตกแต่งบัญชีเท็จ" โดยอาศัยเส้นสายของ"ฮูหยินเป็ด"
บ้างก็ว่าเคยไปทำการเกษตรใหญ่โต "ปลูกมะเขือเทศ" หลอกลวงชาวไร่ชาวนามาลงทุน ได้เงินไปหลายร้อยหมื่นตำลึง "ตอนหลังหอบเงินหนี" โดยการ "ติดสินบน"ให้เจ้าหน้าที่ทางการ
ไม่ว่าอย่างไรถือว่าเป็นคนมีแววตา มองการเมืองทะลุ จึงไปเข้าร่วมกับ "พรรคเทพแห่งเทือกเขาแดนใต้" แต่ไม่ออกหน้า คอยทำงานประสานอยู่ด้านหลัง
กลุ่ม 40 ลี่ปู้ |
หลังจากท่าน "ป๊ะยุด" ยึดอำนาจมาจากยิ่งเล่อเหนียงเหนียง จึงตอบแทนด้วยตำแหน่ง"หัวหน้าลี่ปู้"ของกรมธรรมการ แต่ตอนหลังยังก่อเหตุวุ่นวาย โดนหลวงจีนทั้งประเทศประท้วง จึงโดนถอดถอนออก
ถึงแม้จะไม่มีตำแหน่งเป็นทางการ แต่ก็เป็นที่รู้กันไปทั่วว่า ยังคอยเป็น"สุนัขรับใช้"ให้กับองค์กรลับ และคอยให้การสนับสนุน"เจ็กเตี้ยมอึ้ง"
ไพเบี้ยนั้นมีสมุนคนสนิทอยู่คนหนึ่งชื่อว่า"ม่อน๋าว"แบบว่าไปไหนไปด้วย "ร่วมหัวกันทำความชั่ว" โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ "ล้มการปกครองขององค์กรสงฆ์"
การแต่งตั้ง"สังฆราชา"ที่ล่าช้ายืดเยื้อมาหลายปี ก็ต้องถือเป็นผลงานของไพเบี้ย กับ ม่อน๋าว ที่ร่วมกันเปิดประเด็นขึ้น แล้วส่งลูกให้กับ "หลวงจีนทุศีลอี้ซาร่า" รับไปต่อจนถึงผู้ตรวจการมณฑล(เนื้อเรื่องอยู่ในตอนขึ้นบู๊ตึง)
ล่าสุด "สามโฉดแห่งตงง้วน" (ไพเบี้ย ม่อน๋าว และอี้ซาร่า) ได้ร่วมกันก่อคดีใส่ร้ายท่าน "จ๋างเหล่า" ผู้เป็นมหาสมณแห่งวัดใหญ่ โดยความร่วมมือของตัวเล็กตัวใหญ่ใน"สิ่งปู้"(ดูแลด้านกระบวนการทางกฏหมาย..ประมาณว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ)
จากคดีที่ดูเหมือนไม่มีอะไร เป็นการ "รับเงินบริจาค" ธรรมดา จากผู้มาแสวงบุญ ก็เป็นเหมือนกันทุกวัดทั้งแผ่นดิน ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
แต่เมื่อถึงมือขุนนางโจร ที่รวบอำนาจโดยพลการ ทำเรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็ก ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ตั้งกลุ่มก๊วน "ฉ้อราษฎร์บังหลวง" เออออสอพลอเพื่ออำนาจยศศักดิ์
"ขุนนางโจร"เหล่านี้ แม้จะรวบอำนาจรัฐอยู่ในมือ แต่ก็ขาด"ความชอบธรรม" คดีที่เหมือนจะรังแกกันได้ง่ายๆ กลับเป็นที่จับตาของทวยราษฎร์ ตลอดจนทูตานุทูตที่ประจำอยู่ในเทพนคร
หัวหน้าองค์กรลับ |
"ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต กลับใจคือฟากฝั่ง" ผู้ที่เคยทำบาป ก่อกรรมทำเข็ญ ขอให้กลับตัวกลับใจ ย่อมมีทางให้เดินต่อไป ไม่ต้องจมอยู่ในทะเลทุกข์อีกต่อไป
ใครคือผู้ที่ ไพเบี้ยผู้สามหาวเกรงกลัว แล้วทำไมจะต้องรังควานหาเรื่อง กับท่านมหาสมณแห่งวัดใหญ่
บุคคลกลุ่มนี้ จะเชื่อคำสอนของพุทธองค์.. ยินยอมกลับตัวกลับใจ หรือจะยังประพฤติตนเป็นผู้ที่ "มิเห็นโลงศพ มิหลั่งน้ำตา" ก็คงต้องติดตามกันต่อไปนะคราบ
พ.พเนจร