วันอาทิตย์

ไพเบี้ย "ผู้สามหาว"


ไพเบี้ย ผู้สามหาว

ไพเบี้ย..ฉายาผู้สามหาว ประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจน แต่มาเป็นที่รู้จักไปทั่ว ก็ตอนที่รับตำแหน่งหัวหน้าลี่ปู้ของกรมธรรมการ(ทำหน้าที่บวงสรวงพิธีกรรม และกำกับดูแลหลวงจีน นักพรต..คล้ายๆกรรมาธิการทางด้านศาสนา)

บ้างก็ว่าอดีตเคย "โกงเงินหลวง" สามร้อยหมื่นตำลึงให้ "แม่บ้าน"ของตัวเอง โดยใช้วิธี "กู้ยืม" จากกรมท้องพระคลัง "แล้วตกแต่งบัญชีเท็จ" โดยอาศัยเส้นสายของ"ฮูหยินเป็ด"

บ้างก็ว่าเคยไปทำการเกษตรใหญ่โต "ปลูกมะเขือเทศ" หลอกลวงชาวไร่ชาวนามาลงทุน ได้เงินไปหลายร้อยหมื่นตำลึง "ตอนหลังหอบเงินหนี" โดยการ "ติดสินบน"ให้เจ้าหน้าที่ทางการ

ไม่ว่าอย่างไรถือว่าเป็นคนมีแววตา มองการเมืองทะลุ จึงไปเข้าร่วมกับ "พรรคเทพแห่งเทือกเขาแดนใต้" แต่ไม่ออกหน้า คอยทำงานประสานอยู่ด้านหลัง



 กลุ่ม 40 ลี่ปู้
เมื่อคราว"ยิ่งเล่อเหนียงๆ"ขึ้นเป็นประมุขบู๊ลิ้ม จับกลุ่มกันเป็น"40ลี่ปู้"(ประมาณว่า 40 ส.ว)  คอยขัดแข้งขัดขา ตีรวนชวนทะเลาะ หาเหตุฟ้องร้องวุ่นวาย มิให้การประชุมสงบแม้ซักวันเดียว

หลังจากท่าน "ป๊ะยุด" ยึดอำนาจมาจากยิ่งเล่อเหนียงเหนียง จึงตอบแทนด้วยตำแหน่ง"หัวหน้าลี่ปู้"ของกรมธรรมการ แต่ตอนหลังยังก่อเหตุวุ่นวาย โดนหลวงจีนทั้งประเทศประท้วง จึงโดนถอดถอนออก

ถึงแม้จะไม่มีตำแหน่งเป็นทางการ แต่ก็เป็นที่รู้กันไปทั่วว่า ยังคอยเป็น"สุนัขรับใช้"ให้กับองค์กรลับ และคอยให้การสนับสนุน"เจ็กเตี้ยมอึ้ง"

ไพเบี้ยนั้นมีสมุนคนสนิทอยู่คนหนึ่งชื่อว่า"ม่อน๋าว"แบบว่าไปไหนไปด้วย "ร่วมหัวกันทำความชั่ว" โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ "ล้มการปกครองขององค์กรสงฆ์"

การแต่งตั้ง"สังฆราชา"ที่ล่าช้ายืดเยื้อมาหลายปี ก็ต้องถือเป็นผลงานของไพเบี้ย กับ ม่อน๋าว ที่ร่วมกันเปิดประเด็นขึ้น แล้วส่งลูกให้กับ "หลวงจีนทุศีลอี้ซาร่า" รับไปต่อจนถึงผู้ตรวจการมณฑล(เนื้อเรื่องอยู่ในตอนขึ้นบู๊ตึง)

ล่าสุด "สามโฉดแห่งตงง้วน" (ไพเบี้ย ม่อน๋าว และอี้ซาร่า) ได้ร่วมกันก่อคดีใส่ร้ายท่าน "จ๋างเหล่า" ผู้เป็นมหาสมณแห่งวัดใหญ่ โดยความร่วมมือของตัวเล็กตัวใหญ่ใน"สิ่งปู้"(ดูแลด้านกระบวนการทางกฏหมาย..ประมาณว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ)

จากคดีที่ดูเหมือนไม่มีอะไร เป็นการ "รับเงินบริจาค" ธรรมดา จากผู้มาแสวงบุญ ก็เป็นเหมือนกันทุกวัดทั้งแผ่นดิน ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ

แต่เมื่อถึงมือขุนนางโจร ที่รวบอำนาจโดยพลการ ทำเรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็ก ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ตั้งกลุ่มก๊วน "ฉ้อราษฎร์บังหลวง" เออออสอพลอเพื่ออำนาจยศศักดิ์

"ขุนนางโจร"เหล่านี้ แม้จะรวบอำนาจรัฐอยู่ในมือ แต่ก็ขาด"ความชอบธรรม" คดีที่เหมือนจะรังแกกันได้ง่ายๆ กลับเป็นที่จับตาของทวยราษฎร์ ตลอดจนทูตานุทูตที่ประจำอยู่ในเทพนคร


หัวหน้าองค์กรลับ
"กำแพงมีหู ประตูมีช่อง" อาจจะด้วยที่ทำงานล่าช้า โดนกำหนดเส้นตาย ที่อาจหมายถึงชีวิตของผู้ที่ร่วมปฏิบัติการ ไพเบี้ยผู้สามหาวจึงได้รำพึงหลังเมามายว่า "ถ้าทำงานไม่สำเร็จ พวกเราก็คงเสร็จ"

"ทะเลทุกข์ไร้ขอบเขต กลับใจคือฟากฝั่ง" ผู้ที่เคยทำบาป ก่อกรรมทำเข็ญ ขอให้กลับตัวกลับใจ ย่อมมีทางให้เดินต่อไป ไม่ต้องจมอยู่ในทะเลทุกข์อีกต่อไป

ใครคือผู้ที่ ไพเบี้ยผู้สามหาวเกรงกลัว แล้วทำไมจะต้องรังควานหาเรื่อง กับท่านมหาสมณแห่งวัดใหญ่

บุคคลกลุ่มนี้ จะเชื่อคำสอนของพุทธองค์.. ยินยอมกลับตัวกลับใจ หรือจะยังประพฤติตนเป็นผู้ที่ "มิเห็นโลงศพ มิหลั่งน้ำตา" ก็คงต้องติดตามกันต่อไปนะคราบ

พ.พเนจร




5 ความคิดเห็น:

  1. ม่อนาว 555 คล้าย ม่านาว มะนาว นะ

    ตอบลบ
  2. นับถือนับถือ ลึกซึ้งลึกซึ้ง อยากให้ท่านอาจารย์ฟาดฝ่ามือ ปนะทับหัตถ์สวรรค์ บนกระโหลกม่อน๋าว หรือให้ผุ้ที่รู้กระบวนท่าไม้เท้าตีสุนัข ไปไล่ตีไอ้สามกวนนี่ สักหนึ่งเพลงเมดเล่ย์

    ตอบลบ
  3. ข้าน้อยขอนับถือ หากท่านเพี้ยบุ๋นผู้สามหาว ม่อน๋าว และอี้ซาร่า กลับใจได้ ยุทธภพนี้ต้องสงบอย่างแน่นอน ค่ะ

    ตอบลบ
  4. ไอ้๓ชั่วเล่นกับไฟระวังจะไม่ได้ผุดได้เกิด

    ตอบลบ
  5. ไอ้๓ชั่วเล่นกับไฟระวังจะไม่ได้ผุดได้เกิด

    ตอบลบ